นิยายวิทยาศาสตร์ที่ต้องโยนสมองทิ้งก่อนอ่าน การพยายามคาดเดาว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ยกกำลังสองแสนเจ็ดหมื่นหกพัน คุณจะหัวเราะอย่างไร้เหตุผล ไม่สามารถอธิบายให้คนรอบตัวเข้าใจได้ว่าอ่านอะไรอยู่ รวมถึงอุทาน “อะไรวะเนี่ย?” ในใจหรือกระทั่งหลุดปากออกมา ทั้งตอนเริ่มบท กลางบท และท้ายบท เนื้อหาอุดมไปด้วยความสร้างสรรค์และอารมณ์ขันขั้นสุด สมกับที่ถูกจัดอยู่ในหมวด comedy science fiction(นิยายวิทยาศาสตร์ตลกขบขัน) แต่ผมกลับรู้สึกว่า นี่มันนิยายตลกขบขันที่อ้างวิทยาศาตร์ มากกว่า
-เรื่องย่อ-
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างไม่คาดฝันเมื่อ อาร์เธอร์ เดนต์ คนอังกฤษธรรมดา ๆ ที่ชีวิตพลิกผันอย่างฉับพลัน เมื่อเขาค้นพบว่า โลกกำลังจะถูกทำลายโดยมนุษย์ต่างดาวโวกอนเพื่อสร้างทางด่วนอวกาศ
เคราะห์ดีที่อาร์เธอร์ได้รับการช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลาโดยเพื่อนสนิท ฟอร์ด พรีเฟ็กต์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาทำงานวิจัยภาคสนามให้กับ “คู่มือท่องกาแล็กซีฉบับนักโบก” หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักเดินทางในอวกาศที่โบกยานอวกาศเดินทางไปมาระหว่างดวงดาว
ทันทีที่โลกแหลกสลายไป อาร์เธอร์ต้องกลายเป็น “นักโบกรถ” (Hitchhiker) เดินทางไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เรื่องราวสุดเพี้ยน พร้อมกับเหล่าเพื่อนร่วมเดินทางที่ไม่ธรรมดา อย่างหญิงสาวชาวโลกที่รอดตายมาได้หวุดหวิด ประธานาธิบดีแห่งกาแล็กซีผู้มีสองหัวสามแขน และหุ่นยนต์อัจฉริยะที่เป็นโรคซึมเศร้า
การผจญภัยในเรื่องนี้เต็มไปด้วยการค้นพบที่บ้าคลั่ง แนวคิดทางปรัชญาที่ไม่เข้าท่า คำตอบของคำถามสำคัญที่สุดของชีวิต จักรวาล และทุกสิ่งทุกอย่าง …ที่ดูเหมือนจะไร้สาระอย่างถึงที่สุด!
-ความประทับใจ-
ผมเริ่มอ่านหน้าแรกหลังจากได้มาจากงานหนังสือวันที่ 9 ต.ค. 2025 ตอนนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางกลับเวลาประมาณ 17.00 น. มันเป็นการอ่านที่ลากยาวแบบไม่มีความเบื่อเจือปน ไม่มีอะไรในเรื่องที่คาดเดาได้ มันเพี้ยน บ้าบอ ไร้สาระ แต่ให้ตายสิ หนังสือเล่มนี้มันสนุกสิ้นดี ผมยอมหยุดวางหนังสือลงแค่ตอนกินข้าวเย็น(เพราะต้องถือช้อนส้อม)และตอนอาบน้ำ(เพราะไม่อยากให้หนังสือเปียก)เท่านั้น สุดท้ายก็อ่านจบก่อนเวลานอนเล็กน้อย ส่วนคำถามว่า เล่มนี้ให้คะแนนเท่าไหร่น่ะเหรอ?
42/10 ครับ
สั่งซื้อพร้อมโค้ดลดแบบสุดคุ้ม
https://s.shopee.co.th/5fgJ1tueD3
*หมายเหตุ* ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าความหมายของเลข 42 อาจลองใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จักรวาลคำนวณอีก 750,000 ปีเพื่อหาคำตอบ หรือ ทางที่ง่ายกว่านั้นคือ ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านครับ
